โดยรัฐบาลได้มีการจัดสรรพื้นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ให้กับชาวกะเหรี่ยงบางกลอย แต่กลับทำให้ชาวกะเหรี่ยงบางกลอยไม่สามารถใช้ชีวิตได้ดั่งเดิม เนื่องจากสภาพทางธรรมชาติที่เปลี่ยนไป พื้นที่ใหม่ไม่เอื้ออำนวยต่อสภาพการอยู่อาศัยและการทำมาหาเลี้ยงชีพ จึงทำให้ชาวบ้านบางส่วนพยายามที่จะหนีกลับไปอาศัยยังใจกลางบางกลอย สุดท้ายจึงทำให้เกิดเป็นความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างชนเผ่ากะเหรี่ยงบ้านบางกลอยและรัฐบาลไทยขึ้น อีกทั้งในด้านปัญหาสาธารณสุขพบว่าชาวกะเหรี่ยงหลายรายต้องเผชิญกับโรคไข้เลือดออก เนื่องจากการใช้ชีวิตอยู่ใกล้กับพื้นที่ป่า ที่มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเป็นจำนวนมาก 

เวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป ประสบความสำเร็จในการทดสอบ "พ็อด" ขนส่งผู้โดยสารครั้งแรกของโลก

org. Before you go away, we’d love to get your responses with your encounter As you were in this article. Will you take two minutes to complete a short survey that should help us to improve our Web-site? Cancel

เรายังจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ที่มีการคาดการณ์ว่าจะส่งผลอย่างชัดเจนมากขึ้น รวมถึงความเสี่ยงจากโรคอุบัติใหม่ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสองมหาอำนาจ และความเหลื่อมล้ำทางสังคมทั้งในประเทศและในต่างประเทศ

ในปัจจุบันพบว่าปัญหานี้ได้ถูกช่วยทำให้ดีขึ้น โดยมีการต่อท่อน้ำ มีห้องน้ำที่เหมาะแก่การชำระร่างกายและการขับถ่าย แต่ระบบการกรองน้ำก็ยังคงปรับปรุงได้ไม่ดีนัก จึงทำให้น้ำไม่สะอาดเท่าที่ควร 

ชาวมานิมีความเชื่อในเรื่องภูต ผี วิญญาณ พวกเขาเชื่อว่าผีมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง จึงทำให้ตามบริเวณที่พักอาศัยของพวกเขาจะมีการจุดกองไฟไว้เสมอเพื่อไม่ให้มืด ในเรื่องความเชื่อหลังความตายพวกเขาเชื่อว่าคนตายไปแล้วจะเหลือวิญญาณ และวิญญาณนั้นถ้าหาครรภ์เข้าไม่ได้ และไม่ได้เกิดใหม่ ก็จะกลายมาเป็นวิญญาณที่คอยหลอกหลอนญาติพี่น้องจนทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนพื้นที่พักอาศัย

ชนเผ่ามานิ มักถูกคนในสังคมเรียกพวกเขาว่าชนเผ่าซาไก หรือเงาะป่า ตามลักษณะรูปร่างภายนอกของพวกเขาที่มีสีผิวเข้มและผมหยักศก โดยชื่อของพวกเขาคือ มานิ ที่แปลว่า “คน” แต่กลับถูกเรียกว่า ซาไก ซึ่งในภาษามลายูหมายถึง “ทาส” แสดงให้เห็นถึงความไม่เสมอภาคกันในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เอาเสียเลย แต่ในปัจจุบันคำว่าเงาะป่า หรือซาไก ก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้เรียกพวกเขาอีกแล้ว โดยชนเผ่ามานิอาศัยตามพื้นที่ในเขตภาคใต้ของไทยเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.กุลยศ แย้งว่า คนไทยจะอยู่อย่างไร “ต้องถามว่าคำว่าล้นเกิน เขาวัดจากอะไร เพราะการบอกว่าไฟฟ้ามีเยอะเกิน มีน้อยเกิน ตรงนี้จับต้องได้ยาก และเป็นดุลยพินิจส่วนใหญ่”

แม้ค่าเอฟทีจะเป็นตัวเลขที่ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังไม่สะท้อนโครงสร้างค่าไฟทั้งหมดได้

แล้วจะต้องทำอย่างไรประเทศไทยจึงจะสามารถลดความไม่เท่าเทียมกันให้มากกว่านี้ เพื่อที่คนไทยทุกคนจะได้ประโยชน์จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ?

ผู้สมัครต้องแสดงหนังสือรับรองจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

ผมขอสรุปความท้าทายหลักข้อที่สามที่เราเห็นของประเทศไทย และแน่นอนรวมไปถึงเอเซียตะวันออกและทั่วโลก นั่นก็คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ห้องประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ

โดยสรุป ผมอยากจะเน้นว่าประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมากมายในภูมิภาคที่กำลังเจริญรุ่งเรืองแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการเติบโตที่เร็วขึ้นกว่าเดิม และครอบคลุมทั่วถึงกันด้วยการปรับปรุงระบบการศึกษาและโอกาสในการศึกษาสำหรับคนไทยทุกๆคน ตลอดจนการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม